ยกนี้ใครเป็นต่อ ?

ก่อนจะไปติดตามเรื่องของสองนักเตะกันต่อ ตอนนี้ LS Sport เพิ่มเกมตอบคำถามแฟนบอลพันธุ์แท้รายวัน และเกมโหวตทายผล ลุ้นรับไอเทมนักเตะระดับตำนานแบบไม่ต้องเติมเงินสักบาทเลย! ก็อย่าลืมรีบไปตุนเหรียญ-เก็บเลเวลกันก่อนหมดเขตนะครับ

ขออนุญาตเกริ่นก่อนเลยว่าตามแผนการเดิมของผู้เล่น อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล ที่เราจะจับมาเปรียบเทียบกันนั้นคือ ดาบิด ราญ่า กับ อลิสสัน เบ็คเกอร์ แต่ว่า ‘พ่อหมี’ มาบาดเจ็บไปซะก่อน หลังจากนั้นก็กะว่าจะเทียบ วิลเลียม ซาลิบา กับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค แต่เซ็นเตอร์ทีมชาติฝรั่งเศสก็มาโดนใบแดงเกมที่แล้วซะอีก หนำซ้ำ มวยคู่เอกอย่าง บูกาโญ่ ซาก้า และ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ที่คิดว่าน่าจะวัดกันได้อย่างสนุก แต่ปีกทีมชาติอังกฤษก็ยังไม่รู้ว่าจะฟิตทันเกมนี้หรือไม่

มองดูแล้วจึงพบว่า มีอีกหนึ่งตำแหน่ง ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของทั้งสองทีมคือแดนกลาง ดังนั้นเราจึงขอวัดกันไปเลยระหว่าง ดีแคลน ไรซ์ และ ไรอัน กราเวนเบิร์ช

ประสบการณ์กับทีมชุดใหญ่

ไรซ์: 9 ฤดูกาล 307 นัด (เฉลี่ยฤดูกาลละ 34 แมตช์)
กราเวนเบิร์ช: 7 ฤดูกาล 186 นัด (เฉลี่ยฤดูกาลละ 26 แมตช์)

ตรงนี้ต้องบอกว่ามิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษเหนือกว่าเยอะ ด้วยความที่เล่นกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุแค่ 18 ปีกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แถมลงเล่นมากกว่า 30 แมตช์ใน พรีเมียร์ลีก ถึง 6 ฤดูกาลติด 

ในขณะที่แข้ง ‘หงส์แดง’ เริ่มต้นในลีกรองกับ อาแจ็กซ์ ซึ่งถึงแม้จะโดดเด่นยังไง นี่ก็ไม่ใช่การแข่งขันที่คนให้การยอมรับ โดยการย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค ก็ไม่ค่อยได้โอกาส หรือแม้แต่ซีซั่นที่แล้วกับ ลิเวอร์พูล ก็อยู่บนม้านั่งซะเป็นส่วนใหญ่ กว่าจะมาฝากผีฝากไข้ได้ก็ในฤดูกาลนี้นี่แหละ

ความสำเร็จ

ไรซ์: ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ x1, คอมมูนิตี้ ชิลด์ x1
กราเวนเบิร์ช: บุนเดสลีกา x1, ลีก คัพ x1, เอริเดวิซี่ ลีก x3, เคเอ็นวีบี คัพ x2

หัวข้อนี้เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินมาก ๆ เนื่องจากถึงแม้จำนวนของ ดีแคลน ไรซ์ อาจจะน้อยกว่า แต่ว่าเขาคือคนที่แบกให้ทัพ ‘ขุนค้อน’ คว้าแชมป์ใหญ่ครั้งแรกในรอบกว่า 4 ทศวรรษ ในฐานะกัปตันทีม

ส่วน กราเวนเบิร์ช ถึงแม้จะออกแนวติดสอยห้อยตาม ได้ชูถ้วยไปกับรุ่นพี่ด้วย แต่อย่างที่บอกว่าตัวเลขมันดันเหนือกว่า ที่สำคัญ ‘แชมป์ก็คือแชมป์’ แบบนี้แล้วจะบอกว่าเรื่องนี้ใครเหนือกว่า ด้อยกว่า ก็คงขึ้นอยู่กับที่แล้วแต่คนจะมอง

สถิติฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะ พรีเมียร์ลีก)

ไรซ์: 7 แมตช์, 653 นาที, ชนะการดวล 18 ครั้ง, นำบอลกลับมาครอบครอง 64 ครั้ง

กราเวนเบิร์ช: 8 แมตช์, 736 นาที, ชนะการดวล 25 ครั้ง, นำบอลกลับมาครอบครอง 105 ครั้ง

ฟอร์มฤดูกาลนี้วัดกันแบบปอนด์ต่อปอนด์แล้ว ต้องบอกว่ามิดฟิลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ทำได้ดีกว่าพอสมควร ด้วยความที่ยอมถอยลงมาเล่นในบทบาทเบอร์ 6 คอยเชื่อมเกมภายใต้ระบบใหม่ของ อาร์เน่อ ชล็อต ช่วยให้ทีมขึ้นเป็นจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้

ในขณะที่แข้ง ‘ปืนใหญ่’ ถึงแม้จะไม่แย่ แต่ว่าไม่ดีเท่าฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าผลงานโดยรวมของทีมก็ตกลงไป 

บทสรุปภาพรวม

แน่นอนว่าปัจจัยแพ้ชนะในฟุตบอลสักนัดหนึ่งนั้นมีมากมาย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวชี้วัดรูปเกมนั้นวัดกันที่แดนกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึกบิ๊กแมตช์ ที่อาจมีถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นเดิมพันเมื่อถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า

โดยบทสรุปของกองกลางทั้งสองคน และเกมใหญ่ครั้งนี้จะเป็นอย่างไรนั้น รอติดตามกันได้เลยในค่ำคืนวันอาทิตย์นี้ 23.30 น.

เขียนโดย LS Sport 

ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง